news-details

ภูเก็ตหนุ่มใหญ่จ่อยิงเพื่อนรักสมัยเรียนบาดเจ็บ ก่อนใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อขมับตัวเองดับคาบ้านพัก ตำรวจคาดโต้เถียงมีปัญหาขัดแย้งหรือเหตุหึงหวง

 เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 9 พ.ค.66 พ.ต.ต.อรรถพล สายทองแก้ว สว.(สอบสวน) สภ.วิชิต ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุยิงกันเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย ภายในบ้านเลขที่ 89/421 หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถ.เมืองทอง-เขาขาด ม.6 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.วิชิต ชุดสืบสวนกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวนสภ.วิชิต เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต แพทย์นิติเวช รพ.วชิระภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต



ที่เกิดเหตุเป็นบ้านแฝด 2 ชั้นตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านดังกล่าว หน้าบ้านมีชาวบ้านมายืนมุงดูเหตุการณ์และวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริเวณชั้นล่างใกล้โต๊ะอาหารด้านหลังห้องรับแขก พบหญิงสาวเลือดอาบใบหน้านั่งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตได้เข้าปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทราบชื่อคือ น.ส.ณี (นามสมมุติ) อายุ 57 ปีเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว โดยได้รับบาดเจ็บจากคมกระสุนถากบริเวณใบหน้าและจมูก ยังมีสติและสามารถพูดคุยรู้เรื่อง จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และใกล้กันบนพื้น พบร่าง นายจักษ์ (นามสมมุติ) อายุ 56 ปี ชาวจ.ชุมพรถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ขมับขวากระสุนทะลุ 1 นัดเสียชีวิต สภาพศพหงายเลือดไหลนองพื้น สวมเสื้อโปโลแขนสั้นสีเขียว นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน โดยเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 นาที โดยบนเก้าอี้เบาะผ้าสีแดงติดกับโต๊ะกินข้าว พบอาวุธปืนขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก

มีเครื่องกระสุนปืนขนาด 359 จำนวน 6 นัด ถูกยิงไปแล้ว 3 นัด และยังพบหัวกระสุนปืนฝังอยู่ในเบาะโซฟาจำนวน 1 หัว ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บตัวอย่างและหลักฐานต่างๆ โดยบนโต๊ะอาหารมีกับข้าว เบียร์ 2 กระป๋องและสปายไวน์คลูเลอร์ 1 ขวดวางอยู่ จากนั้นได้มอบศพให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่ รพ.วชิระภูเก็ตอย่างละเอียดอีกครั้ง





จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า น.ส.ณี (นามสมมุติ) กับนายจักษ์เคยรู้จักกันตั้งแต่สมัยยังเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนเดียวกัน จากนั้นต่างฝ่ายก็มีครอบครัว แต่เมื่อทั้งคู่โสดก็มาคบหาเป็นแฟนกันไปมาหาสู่กันบ่อยครั้ง โดยในวันเกิดเหตุนายจักษ์ได้เดินทางมาจากจังหวัดชุมพรเพื่อมาธุระ แล้วได้มาพักที่บ้านที่เกิดเหตุโดยได้ซื้อเครื่องดื่มมาดื่มน.ส.ณี และได้ทำกับข้าวกินกัน ระหว่างที่นั่งดื่มกินกันอยู่ น.ส.ณี ได้บอกกับนายจักษ์ ว่าให้กลับไปคบหาเป็นเพื่อนกับแบบเดิมถ้าจะมาที่บ้านให้บอกล่วงหน้าก่อน แต่นายจักษ์ได้บอกว่า หากเลิกกันก็อย่าอยู่ทั้งสองคนแล้วนายจักษ์ได้ไปเอาอาวุธปืนมาจากในรถแล้วระหว่างคุยกันนายจักษ์ได้ใช้มือกดหน้าน.ส.ณีติดกับกระจกหน้าต่างแล้วใช้มือขวาจับอาวุธปืนยิงที่ขาน.ส.ณีแต่ไม่ถูกทำให้หัวกระสุนไป ฝังในเบาะโซฟาดังกล่าว จำนวน 1 นัด และยิงใส่ใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 นัด ได้ใช้อาวุธปีนกระบอกเดียวกันยิงเข้าขมับข้างขวาของตนเองล้มลงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ต่อมาน.ส.ณีได้เรียกให้บุตรสาวที่ซึ่งอยู่ในห้องนอนชั้น 2 ของบ้านที่เกิดเหตุให้ลงมาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่สุด ซึ่งทราบว่า นายจักษ์ทำอาชีพรับขุด ถมดินและมีสวนทุเรียนอยู่ที่ จ.ชุมพร ส่วน น.ส.ณี ทำงานอยู่ที่ จ.ภูเก็ตและเป็นเจ้าของบ้านพักหลังที่เกิดเหตุ 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง และได้มีการเก็บเขม่าดินปืนกับทั้งผู้ตายและผู้บาดเจ็บเพื่อเป็นหลักฐานและหาสาเหตุของการเกิดเหตุรุนแรงในครั้งนี้ต่อไป